วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
สมาชิกวง The mousses
สมาชิก
(ปัจจุบัน)
- พงศกร ลิ่มสกุล (แอร์) ร้องนำ
- อธิศ อมรเวช (จ๊ะ) กีต้าร์
- กษิภัท ยิ่งเจริญ (บาส) เบส
- ศุภโชค เตือนจิตต์ (ต๋า) กลอง
- อริญชย์ ภาณุเวศย์ (ริน) เปียโน
ผลงานเพลง วง The Mousses
ผลงานเพลง
อัลบั้ม Weak Hair Use Mousses (อิสระ)
- Chance (โอกาส)
- Choice
- Sweetheart
- เพราะเธอ
- ไม่มีความหมาย
- ฯลฯ
อัลบั้ม Compilation (Believe Records)
- Chance (โอกาส)
- Choice
อัลบั้ม Twenty Something (Genie Records )
(วางแผน 30 พฤศจิกายน 2554)
- เจ้าชายกับเจ้าหญิง
- ...บ้างไหม
- สองเราตราบชั่วนิจนิรันดร์
- ท้อ
- ลัก
- แม้เธอจะน้อย
- โปรด
- จูบสุดท้าย
- Tears and Travel feat. ออน - ละอองฟอง
- ชีวิตที่เคยมีเรา
- สราญ
Special single
- 2556
- เพลงของเธอและฉัน - The Mousses (เพลงพิเศษแด่การจากไปของ MAMAFAKA)
- ทางที่เลือก - แอร์ The Mousses , โอม Cocktail , ต้า Paradox (เพลงพิเศษประจำแคมเปญ EXIT One Life Club)
วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
ประวัติวง The Mousses
ประวัติวง The Mousses
ประวัติวงของเรา
สมาชิกวง
พงศกร ลิ่มสกุล “แอร์” ร้องนำ
อธิศ อมรเวช “จ๊ะ” กีต้าร์
ศรัย์ ยิ่งเจริญ “บาส” เบส
อาสนัย อาสม์สกุล “แม็ก” กลอง
และ สมาชิกใหม่ อริญชย์ ภาณุเวศย์ “ริน” เปียโน
ย้อนกลับไปเมื่อ4ปีที่แล้ว ช่วงเดือนเมษายน พศ.2550 ตอนสมัยแอร์เรียนมหาลัยศิลปากรตอนปี4 แอร์มีความฝันอยากมีวงดนตรีสักวงนึงเพื่อสนองความอยากของตัวเอง เลยได้ชวนจ๊ะมาทำวงดนตรีกัน ด้วยความที่ฟังเพลงสไตล์ที่ค่อนข้างคล้ายกัน และสนิทกัน เพราะเรียนมาด้วยกันตั้งเเต่ประถม มัธยม จนมาถึงมหาลัย หลังจากนั้นจ๊ะก็นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนเก่าชื่อบาส เคยเล่นดนรีด้วยกันมาตอนมัธยม จ๊ะก็ได้กลับไปชวนบาส กลับมาทำความฝันด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งช่วงแรกแอร์กับจ๊ะต่างเป็นมือกีต้าร์หมด ส่วนบาสตอนนั้นก็หน้าที่ร้องนำ แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ทำให้บาสเลิกร้องเพลง หันไปเล่นกีต้าร์แทน หลังจากนั้นก็ได้พยายามหานักร้องเข้ามา แต่หากันไม่ได้จริงๆ แอร์เลยต้องกลายเป็นนักร้องจำเป็นไปก่อน และก็ได้จับบาสย้ายมาเล่นเบส จากนั้นแอร์ได้ไปชวนแมกซ็ ซึ่งป็นเพื่อนที่มหาลัย มาเป็นมือกลอง และได้มีโอกาสเข้าไปแคสที่ RS แต่ไม่ผ่าน แต่ก็ไม่ได้ทำให้วงท้อแท้ ก่อนหน้านี้ เราได้ชื่อแทนตัวเองว่า “the krunk” หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็น “the mousses” ซึ่งมันคือมูสใส่ผมนั่นเอง
ต่อมาแอร์ก็ได้เริ่มแต่งเพลงของตัวเองขึ้นมา ได้ลองผิดลองถูกกันอยู่สักพักใหญ่ๆ และช่วงแรกๆก็ตระเวนเล่นคอนเสิร์ตตามงาน party indy ต่างๆอยู่ประมาน1ปี และได้ทำแผ่น CD เพลงของตัวเอง ขายกันเองตามงานเทศกาลต่างๆ ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี และได้มีโอกาสประกวดดนตรีของ believe records และได้ออกอัลบั้ม complilation ของค่าย believe และได้รางวัลชมเชย ได้เงินมา 5,000บาท เป็นเงินก้อนแรกของวง และได้ปล่อยเพลงมา2singleคือ โอกาส(chance) และเพลง choice
จากนั้นไม่นาน แอร์ได้มาเจอกับพี่โน่(โปรดิวส์เซอร์) และพี่โน่ได้ชักชวนให้เข้ามาที่ค่าย genie records ต่อมาแมกซ์ได้ขอแยกตัวออกไป จึงได้มือกลองใหม่เข้ามาคือ ต๋า ซึ่งเป็นรุ่นน้องของเพื่อนอีกที วันเวลาผ่านไปอีก1ปีทำให้ the mousses ได้เจอกับพีอู๊ด bandwagon โดยการชักชวนของพี่โน่ เข้ามาร่วมงานกัน ทำให้ the mousses มีโปรดิวส์เซอร์2คน และได้ปล่อย single แรก หลังจากย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ที่ genie คือ เพลง สราญ แต่กระแสเพลงนี้กลับได้ไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้ทุกคนรู้สึกนอยด์ และกลับมาทบทวนตัวเองกันใหม่อีกที
ช่วงนี้ต่างคนต่างกลับทำภาระกิจของตัวเองกัน คือการไปเรียนหนังสือกันให้จบ หลังจากทีดรอปไว้ แต่ระหว่างนั้น แอร์ได้เขียนเพลงเก็บไว้เรื่อยๆ สะสมมาเรือยๆ จนหลังจากที่เรียนจบให้พ่อกับแม่ได้แล้ว the mousses ได้กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง และเพลงแรกที่ปล่อยออกมาคือเพลง”เจ้าชายกับเจ้าหญฺิง” ซึ่งก่อนที่จะปล่อยเพลงนี้ถือว่า กดดันกันพอสมควร เพราะกลัวในหลายๆอย่าง ที่เคยผิดพลาดมาก่อนจะเกิดซ้ำขึ้นมาอีก แต่พอได้ออกเพลงนี้ไป กระแสเริ่มกลับมาดีขึ้น และทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
แต่เนื่องด้วยตอนที่แอร์เขียนเพลงไว้ แอร์อยากได้เพลงที่มีพวกเสียงสังเคราะห์ คือพวก คีย์บอร์ดกับซิน เลยนึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนคนนึงที่เล่นเครื่องนี้อยู่ แอร์เลยได้ไปชักชวนให้ “ริน” มาอัดเป๊ยโนให้ หลังจากนั้นก็ไปตระเวนเล่นคอนเสิร์ตด้วยกันบ่อยครั้ง และด้วยความชอบ และไลฟ์สไตล์ คล้ายกัน ทำให้ตัดสินชวน ริน เข้ามาเป็นสมาชิกของ the mousses อย่างเต็มตัว และได้ทยอยปล่อยเพลงต่อมาคือ เพลง”…บ้างไหม” และเพลง “ลัก” ออกมา และตอนนี้กำลังมี project ทำอัลบั้มเต็ม เป็นอัลบั้มแรก ในนาม “the mousses”
อัลบั้มแรกนี้ ถ้าได้ปล่อยออกมา มันก็อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือน่าตื่นเต้นอะไรมากนัก สำหรับวงการเพลงไทย แต่สำหรับ the mousses นับได้ว่าเป็นครึ่งของชีวิตสำหรับเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง เลยก็ว่าได้ “เพราะเราเชื่อในเพลงของเรา รักเพลงของเรา” นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรายังอยู่
ท้ายสุดอยากจะเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม “ความสำเร็จ เกิดจากการเรียนรู้ความผิดพลาดซ้ำๆหลายๆครั้งและนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ” เพราะเรารู้ตัวเองดีว่าเราไม่ใช่คนเก่ง ยังต้องพัฒนากันอีกเยอะ เเต่ถ้าคุณรักมันจริงๆ คุณต้องสู้ ต้องอดทน ฝึกฝนกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่างเเน่วเเน่ จงอย่าปล่อยให้ตัวเองหลับนานเกินไป ถ้าอยากให้ฝันเป็นจริง…
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ขอบคุนทุกกำลังใจที่ยังมีให้กันตลอดมา ตั้งเเต่เราผมยาวฟู จนสั้นกันหมดแล้ว สำหรับวงดนตรีเล็กๆวงหนึ่ง มันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ การเดินทางครั้งนี้กว่า4ปีแล้ว แต่เราถือว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้น หนทางจริงๆแล้วยังอีกยาวไกลยิ่งนัก และไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคที่มันเข้ามาตอนนี้อีกซักกี่ยก จะล้มอีกกี่ครั้ง จะต้องเขียนเพลงใหม่อีกซักกี่รอบ เราจะไม่่มีวันถอยหลังกลับ จะต้องดันอัลบั้มนี้ออกไปให้ได้ ยังไงก็ขอฝากพวกเราไว้ด้วย อย่าเพี่งหายกันไปไหนนะ และเราสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน♥
ประวัติวงของเรา
สมาชิกวง
พงศกร ลิ่มสกุล “แอร์” ร้องนำ
อธิศ อมรเวช “จ๊ะ” กีต้าร์
ศรัย์ ยิ่งเจริญ “บาส” เบส
อาสนัย อาสม์สกุล “แม็ก” กลอง
และ สมาชิกใหม่ อริญชย์ ภาณุเวศย์ “ริน” เปียโน
ย้อนกลับไปเมื่อ4ปีที่แล้ว ช่วงเดือนเมษายน พศ.2550 ตอนสมัยแอร์เรียนมหาลัยศิลปากรตอนปี4 แอร์มีความฝันอยากมีวงดนตรีสักวงนึงเพื่อสนองความอยากของตัวเอง เลยได้ชวนจ๊ะมาทำวงดนตรีกัน ด้วยความที่ฟังเพลงสไตล์ที่ค่อนข้างคล้ายกัน และสนิทกัน เพราะเรียนมาด้วยกันตั้งเเต่ประถม มัธยม จนมาถึงมหาลัย หลังจากนั้นจ๊ะก็นึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนเก่าชื่อบาส เคยเล่นดนรีด้วยกันมาตอนมัธยม จ๊ะก็ได้กลับไปชวนบาส กลับมาทำความฝันด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งช่วงแรกแอร์กับจ๊ะต่างเป็นมือกีต้าร์หมด ส่วนบาสตอนนั้นก็หน้าที่ร้องนำ แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไป ทำให้บาสเลิกร้องเพลง หันไปเล่นกีต้าร์แทน หลังจากนั้นก็ได้พยายามหานักร้องเข้ามา แต่หากันไม่ได้จริงๆ แอร์เลยต้องกลายเป็นนักร้องจำเป็นไปก่อน และก็ได้จับบาสย้ายมาเล่นเบส จากนั้นแอร์ได้ไปชวนแมกซ็ ซึ่งป็นเพื่อนที่มหาลัย มาเป็นมือกลอง และได้มีโอกาสเข้าไปแคสที่ RS แต่ไม่ผ่าน แต่ก็ไม่ได้ทำให้วงท้อแท้ ก่อนหน้านี้ เราได้ชื่อแทนตัวเองว่า “the krunk” หลังจากนั้นได้เปลี่ยนมาเป็น “the mousses” ซึ่งมันคือมูสใส่ผมนั่นเอง
ต่อมาแอร์ก็ได้เริ่มแต่งเพลงของตัวเองขึ้นมา ได้ลองผิดลองถูกกันอยู่สักพักใหญ่ๆ และช่วงแรกๆก็ตระเวนเล่นคอนเสิร์ตตามงาน party indy ต่างๆอยู่ประมาน1ปี และได้ทำแผ่น CD เพลงของตัวเอง ขายกันเองตามงานเทศกาลต่างๆ ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี และได้มีโอกาสประกวดดนตรีของ believe records และได้ออกอัลบั้ม complilation ของค่าย believe และได้รางวัลชมเชย ได้เงินมา 5,000บาท เป็นเงินก้อนแรกของวง และได้ปล่อยเพลงมา2singleคือ โอกาส(chance) และเพลง choice
จากนั้นไม่นาน แอร์ได้มาเจอกับพี่โน่(โปรดิวส์เซอร์) และพี่โน่ได้ชักชวนให้เข้ามาที่ค่าย genie records ต่อมาแมกซ์ได้ขอแยกตัวออกไป จึงได้มือกลองใหม่เข้ามาคือ ต๋า ซึ่งเป็นรุ่นน้องของเพื่อนอีกที วันเวลาผ่านไปอีก1ปีทำให้ the mousses ได้เจอกับพีอู๊ด bandwagon โดยการชักชวนของพี่โน่ เข้ามาร่วมงานกัน ทำให้ the mousses มีโปรดิวส์เซอร์2คน และได้ปล่อย single แรก หลังจากย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ที่ genie คือ เพลง สราญ แต่กระแสเพลงนี้กลับได้ไม่ดีเท่าที่ควร เลยทำให้ทุกคนรู้สึกนอยด์ และกลับมาทบทวนตัวเองกันใหม่อีกที
ช่วงนี้ต่างคนต่างกลับทำภาระกิจของตัวเองกัน คือการไปเรียนหนังสือกันให้จบ หลังจากทีดรอปไว้ แต่ระหว่างนั้น แอร์ได้เขียนเพลงเก็บไว้เรื่อยๆ สะสมมาเรือยๆ จนหลังจากที่เรียนจบให้พ่อกับแม่ได้แล้ว the mousses ได้กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง และเพลงแรกที่ปล่อยออกมาคือเพลง”เจ้าชายกับเจ้าหญฺิง” ซึ่งก่อนที่จะปล่อยเพลงนี้ถือว่า กดดันกันพอสมควร เพราะกลัวในหลายๆอย่าง ที่เคยผิดพลาดมาก่อนจะเกิดซ้ำขึ้นมาอีก แต่พอได้ออกเพลงนี้ไป กระแสเริ่มกลับมาดีขึ้น และทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
แต่เนื่องด้วยตอนที่แอร์เขียนเพลงไว้ แอร์อยากได้เพลงที่มีพวกเสียงสังเคราะห์ คือพวก คีย์บอร์ดกับซิน เลยนึกขึ้นได้ว่ามีเพื่อนคนนึงที่เล่นเครื่องนี้อยู่ แอร์เลยได้ไปชักชวนให้ “ริน” มาอัดเป๊ยโนให้ หลังจากนั้นก็ไปตระเวนเล่นคอนเสิร์ตด้วยกันบ่อยครั้ง และด้วยความชอบ และไลฟ์สไตล์ คล้ายกัน ทำให้ตัดสินชวน ริน เข้ามาเป็นสมาชิกของ the mousses อย่างเต็มตัว และได้ทยอยปล่อยเพลงต่อมาคือ เพลง”…บ้างไหม” และเพลง “ลัก” ออกมา และตอนนี้กำลังมี project ทำอัลบั้มเต็ม เป็นอัลบั้มแรก ในนาม “the mousses”
อัลบั้มแรกนี้ ถ้าได้ปล่อยออกมา มันก็อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือน่าตื่นเต้นอะไรมากนัก สำหรับวงการเพลงไทย แต่สำหรับ the mousses นับได้ว่าเป็นครึ่งของชีวิตสำหรับเด็กหนุ่มกลุ่มหนึ่ง เลยก็ว่าได้ “เพราะเราเชื่อในเพลงของเรา รักเพลงของเรา” นี่คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรายังอยู่
ท้ายสุดอยากจะเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ก็ตาม “ความสำเร็จ เกิดจากการเรียนรู้ความผิดพลาดซ้ำๆหลายๆครั้งและนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ” เพราะเรารู้ตัวเองดีว่าเราไม่ใช่คนเก่ง ยังต้องพัฒนากันอีกเยอะ เเต่ถ้าคุณรักมันจริงๆ คุณต้องสู้ ต้องอดทน ฝึกฝนกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่างเเน่วเเน่ จงอย่าปล่อยให้ตัวเองหลับนานเกินไป ถ้าอยากให้ฝันเป็นจริง…
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ขอบคุนทุกกำลังใจที่ยังมีให้กันตลอดมา ตั้งเเต่เราผมยาวฟู จนสั้นกันหมดแล้ว สำหรับวงดนตรีเล็กๆวงหนึ่ง มันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ การเดินทางครั้งนี้กว่า4ปีแล้ว แต่เราถือว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้น หนทางจริงๆแล้วยังอีกยาวไกลยิ่งนัก และไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคที่มันเข้ามาตอนนี้อีกซักกี่ยก จะล้มอีกกี่ครั้ง จะต้องเขียนเพลงใหม่อีกซักกี่รอบ เราจะไม่่มีวันถอยหลังกลับ จะต้องดันอัลบั้มนี้ออกไปให้ได้ ยังไงก็ขอฝากพวกเราไว้ด้วย อย่าเพี่งหายกันไปไหนนะ และเราสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน♥
ประวัติรายการ VRZO
ประวัติรายการ VRZO
หัวข้อในการสัมภาษณ์นั้น เลือกประเด็นที่เป็นที่พูดถึงในสังคม 100 คน ในบางหัวข้อสัมภาษณ์แต่ผู้ชายหรือผู้หญิงล้วน ในบางหัวข้อสัมภาษณ์ทั้งชายและหญิงคละกันไป อย่างเช่นหัวข้อ ที่ถามผู้ชายเกี่ยวกับเรื่องการสวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาที่แน่นคับของนักศึกษาหญิง หรือในตอนที่ 15 สัมภาษณ์กะเทยและเกย์ ที่พัทยา
ช่วงอื่นของรายการเช่น สาระมีอยู่จริง และอิสระ ฮาตะ รวมถึงมีช่วงที่มีบุคคลมีชื่อเสียงมาแสดงความเห็นประเด็นนั้น เรียก เซเลบริเชียล ผู้มาร่วมแสดงความเห็น เช่น ประกาศิต โบสุวรรณ, โก๊ะตี๋ อารามบอย, ปาณิสรา พิมพ์ปรุ เป็นต้น
นอกเหนือไปจากการสัมภาษณ์บุคคลที่ดูดี 100 คนแล้ว เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรายการคือการขอให้ผู้ถูกสัมภาษณ์พูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับประเด็นที่ถูกถามภายใน 3 พยางค์ จนทำให้วลี “ขอสามคำ” เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสังคมออนไลน์ วิธีการนี้ถูกใช้ครั้งแรกในตอนที่ 4 ของรายการ ในหัวข้อการสวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาที่แน่นคับของนักศึกษาหญิง ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์ที่ถูกขอความเห็น 3 พยางค์เป็นคนแรกในรายการคือ วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ จอห์น วิญญู พิธีกรที่โด่งดังจากรายการออนไลน์
ช่วงอื่นของรายการเช่น สาระมีอยู่จริง และอิสระ ฮาตะ รวมถึงมีช่วงที่มีบุคคลมีชื่อเสียงมาแสดงความเห็นประเด็นนั้น เรียก เซเลบริเชียล ผู้มาร่วมแสดงความเห็น เช่น ประกาศิต โบสุวรรณ, โก๊ะตี๋ อารามบอย, ปาณิสรา พิมพ์ปรุ เป็นต้น
นอกเหนือไปจากการสัมภาษณ์บุคคลที่ดูดี 100 คนแล้ว เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรายการคือการขอให้ผู้ถูกสัมภาษณ์พูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับประเด็นที่ถูกถามภายใน 3 พยางค์ จนทำให้วลี “ขอสามคำ” เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสังคมออนไลน์ วิธีการนี้ถูกใช้ครั้งแรกในตอนที่ 4 ของรายการ ในหัวข้อการสวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาที่แน่นคับของนักศึกษาหญิง ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์ที่ถูกขอความเห็น 3 พยางค์เป็นคนแรกในรายการคือ วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ จอห์น วิญญู พิธีกรที่โด่งดังจากรายการออนไลน์
G-Dragon
จี - ดรากอน
ชื่อในวงการ : G-Dragon (G-드래곤)
ชื่อจริง : Kwon Ji Yong (권지용) (Yong ในภาษาเกาหลี แปลว่า มังกร)
วันเกิด : 18 สิงหาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 19 ปี) - วันที่เขาเกิดตรงกับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคปี 88 กรุ๊ปเลือด : เอ
ส่วนสูง : 170 น้ำหนัก : 54kg
ชื่อจริง : Kwon Ji Yong (권지용) (Yong ในภาษาเกาหลี แปลว่า มังกร)
วันเกิด : 18 สิงหาคม ค.ศ. 1988 (อายุ 19 ปี) - วันที่เขาเกิดตรงกับพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคปี 88 กรุ๊ปเลือด : เอ
ส่วนสูง : 170 น้ำหนัก : 54kg
สมาชิกในครอบครัว: พ่อแม่และพี่สาว
Specialty :
Rapping, Dancing, Beat Boxing, การเขียน, ร้องเพลง, ภาษาจีน, และภาษาอังกฤษ
:
.
งานอดิเรกการวาดภาพและฟังเพลงเปิดตัวครั้งแรก : Hip Hop
DaeHanMinGook Flex [2001]
บุคลิกภาพ :
เขาสวยสดใส ... เมื่อเขาเงียบเขาจะเงียบมาก เขาLightens อารมณ์มาก ที่พระองค์ทรงนำกลุ่ม
ความรู้สึกของพระองค์เป็นอย่างรวดเร็วและมีความนับถือตนเองสูงและชอบที่จะโดดเด่น
ชอบ : แฟชั่น, การแสดง, ทำอาหาร, กรอบโดนัท, สุนัข, รถยนต์, วาด'มันคือดาวหรือโครงกระดูก'หนังสือ <poems, mangas, and magazines> , ดูการ์ตูนและเขาเอง :. ประสบการณ์ที่ผ่านมาเขาอยู่ในโรงเรียนประถมศึกษาที่เขาอยู่ในBoBoBo. เมื่อในปี 2001 เขาอยู่ในฮิปฮอปของเกาหลีเฟล็กซ์
ชอบ : แฟชั่น, การแสดง, ทำอาหาร, กรอบโดนัท, สุนัข, รถยนต์, วาด'มันคือดาวหรือโครงกระดูก'หนังสือ <poems, mangas, and magazines> , ดูการ์ตูนและเขาเอง :. ประสบการณ์ที่ผ่านมาเขาอยู่ในโรงเรียนประถมศึกษาที่เขาอยู่ในBoBoBo. เมื่อในปี 2001 เขาอยู่ในฮิปฮอปของเกาหลีเฟล็กซ์
แนะนำใน : --
แรกอัลบั้มของเพอร์รี่ -- แรกอัลบั้มของ Lexy --ครอบครัว YG
2002 ครั้งที่ 2 อัลบั้ม, โปรแกรมเบสบอล YMCA, -- Swi.T's อัลบั้มแรก.
ของ Se7en -- วันที่ 1 และที่ 3 อัลบั้มแรกของ Wheezing
-- อัลบั้ม Wu 's 1st Masta -- อัลบั้ม -- เป็น YG ในครอบครัว ONE คอนเสิร์ตการศึกษา: Seoul Korean Traditional Arts Middle
& High School
เดบิวท์ : DaeHanMinGook Hip Hop Flex 2001
ตำแหน่ง : หัวหน้าวง / แรปเปอร์ / แต่งเพลง ( เนื้อร้อง + ทำนอง )
เดบิวท์ : DaeHanMinGook Hip Hop Flex 2001
ตำแหน่ง : หัวหน้าวง / แรปเปอร์ / แต่งเพลง ( เนื้อร้อง + ทำนอง )
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)